
ช็อกหลานสาวไลฟ์สดดิ่งสะพานจมแม่น้ำเจ้าพระยา ยายที่ระนองเผยเพิ่งโทรศัพท์มาร่ำไห้ระบายความในใจถูกผู้ชายหลอกไปทำไม่ดี ยอมรับหลานสาวมีปมด้อยเพราะกำพร้าพ่อแม่ เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก ต่อมาพอโตขึ้นไม่ทันจะจบม.4 ก็หนีเข้ากรุงบอกจะไปหางานทำ อยากให้พบร่างเร็วๆ จะได้ทำบุญไปให้ ด้านผกก.สน.บวรมงคลเผยจนถึงขณะนี้ไม่พบศพ ส่วนในทางคดีนั้นจะเรียกสอบเพิ่มในประเด็นอื่นๆ แต่ยังไม่แจ้งข้อหาจยย.รับจ้างที่ช่วยถือมือถือไลฟ์ก่อนเกิดเหตุสลด
ความคืบหน้ากรณีหญิงสาวอายุ 18 ปี ว่าจ้างมอเตอร์ไซค์รับจ้างให้มาส่งที่สะพานพระราม 8 พร้อมกับขึ้นไปบนราวสะพาน โดยให้นายภัทรดนัย นุ่มศรีนารถ คนขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างถ่ายไลฟ์ผ่านมือถือส่วนตัวของฝ่ายหญิง จนเกิดเหตุสลดพลัดตกลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยาหายไป ซึ่งหญิงสาวรายดังกล่าวทราบชื่อภายหลังว่า น.ส.นิตยา สวัสดิวรรณ อายุ 18 ปี เป็นชาวระนอง ตามที่เสนอข่าวนั้น
เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ที่ สน.บวรมงคล พ.ต.อ. วิรดล ทับทิมดี ผกก.สน.บวรมงคล เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้เรียกตัวนายภัทรดนัย นุ่มศรีนารถ คนขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างที่ไปส่งหญิงสาวและเป็นผู้ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวน.ส.นิตยา มาสอบปากคำ โดยให้การว่า ตัวน.ส.นิตยาได้ว่าจ้างให้มาส่งที่สะพานพระราม 8 หลังจากนั้นน.ส.นิตยาก็ให้ช่วยไลฟ์สดเฟซบุ๊ก โดยไม่ทราบว่าหญิงสาว ดังกล่าวจะกระโดดลงไป คิดแค่ว่าต้องการให้ช่วยถ่ายบรรยากาศ หลังเกิดเหตุได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจและขอความช่วยเหลือคนในจุดเกิดเหตุให้เข้ามาช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใดๆ กับนายภัทรดนัย หลังจากมีการตั้งคำถามจากโลกโซเชี่ยลว่าทำไมไม่เข้าห้ามปรามหรือเข้าช่วยเหลือหญิงรายดังกล่าว ซึ่งหากพบมีความผิดในประเด็นใดก็จะเรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
ส่วนความคืบหน้าการค้นหาตัวน.ส.นิตยานั้น พ.ต.อ.วิรดลกล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่พบตัวหรือร่างของผู้สูญหาย โดยได้ประสานให้เรือโดยสารและเรือต่างๆ ในพื้นที่ช่วยตรวจสอบหากพบร่างผู้เสียชีวิตในแม่น้ำเจ้าพระยาก็จะมีการประสานข้อมูลทันที ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าหญิงดังกล่าวเสียชีวิตแล้วหรือไม่
ด้านนางปาริชาติ อนุกูลประชา อายุ 46 ปี น้าสาว กล่าวว่า น.ส.นิตยาไม่มีพี่น้อง พ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่น.ส.นิตยายังเด็ก และแม่ของน.ส.นิตยาซึ่งเป็นพี่สาวของตนก็มาเสียชีวิตไปเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา น.ส.นิตยาจึงมาอาศัยอยู่กับตน และนางกาญจนา สุขุมวาท อายุ 73 ปี ผู้เป็นยายที่ จ.ระนอง หลานสาวเรียนถึงแค่ ม.3 และต่อ ม.4 ได้อีกแค่เทอมเดียวก็ลาออก ขอเดินทางเข้ามาทำงานที่กทม. แต่ก็ไม่ได้บอกว่าทำงานอะไร เมื่อกลางเดือนพ.ย.60 หลานสาวได้กลับมาทำบัตรประชาชนที่ จ.ระนอง แต่ก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังมากนัก หลานสาวจะสนิทกับยายมากกว่า นางกาญจนาซึ่งเป็นแม่ของตนเล่าให้ฟังคร่าวๆ ว่า หลานสาวมีปัญหาหัวใจมาเล่าให้ฟังแล้วร้องไห้ ซึ่งทุกคนก็ปลอบใจ และไม่ได้คิดว่าหลานสาวจะคิดสั้นขนาดนี้ หากพบศพหลานสาวตนก็จะเดินทางมารับศพกลับไปดำเนินการตามศาสนาต่อไป

ที่ จ.ระนอง ผู้สื่อข่าวได้ออกติดตามจนพบญาติผู้เสียชีวิต คือ น.ส.นิตยา หรือน้องเคลียร์ ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.ระนอง โดยกำนัน ต.บางนอน ได้ตรวจสอบบัญชีรายชื่อลูกบ้านแต่ไม่พบ และเดินทางไปบ้านหลังหนึ่ง พบนายมนัส วรพันธ์ เจ้าของบ้านซึ่งระบุว่า ญาติๆ น.ส.นิตยาเคยอยู่บ้านหลัง ดังกล่าวจริง กับทางญาติๆ ยายและน้าหลาน แต่ได้ย้ายออกไปนานแล้ว แต่พอมีเบาะแสที่อยู่ที่ย้ายออกไปทำมาหากิน
หลังผู้สื่อข่าวเดินทางตามหาญาติ 2-3 จุด จนในที่สุดก็พบกับนางกาญจนา สุขุมวาท อายุ 72 ปี ซึ่งลูกๆ เปิดร้านอาหารริมถนนเพชรเกษม โดยคุณยายกาญจนาซึ่งเดินเหินไม่ค่อยสะดวก นั่งอยู่ที่หน้าร้าน เมื่อถามว่าทราบข่าวเกี่ยวกับหลานสาวหรือยัง คุณยายกาญจนาบอกว่าเบื้องต้นทราบข่าวแล้ว และยืนยันว่าภาพบัตรประชาชนที่ตกอยู่ในจุดเกิดเหตุเป็นของน้องเคลียร์ หลานสาวตนจริง
ยายกาญจนาเล่าว่า ญาติๆ จาก กทม.โทร.มาบอกว่าน้องเคลียร์ตกแม่น้ำ ซึ่งก็ยังไม่แน่ใจ จนมาเห็นข่าวทางเฟซบุ๊ก ถึงรู้ว่าหลานทำจริง ตอนแรกไม่นึกว่าจะกล้าทำ ก็ภาวนาขอให้เจอศพเร็วๆ สงสารหลาน สำหรับหลานสาวคนนี้ตนเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด เพราะเด็กกำพร้าพ่อ กำพร้าแม่ ตอนแรกพ่อตายไปก่อนแล้ว อยู่กับแม่แล้วมาตายทีหลัง อยู่บ้านเดียวกันมาตลอด อยู่ด้วยกันสองคนยายหลาน แม่เสียตอนยังไม่เข้าเรียนในชั้นมัธยม โดยมีน้าชายที่ทำงานอยู่สิงคโปร์ส่งเสียให้เรียนทุกอย่าง อยากจะเรียนอะไรก็ดูแลให้ทุกอย่าง ส่วนสาเหตุที่เข้าไปอยู่กรุงเทพฯ เพราะเพื่อนที่ระนองชวนไป ทั้งที่ที่บ้านไม่เคยให้ไปไหนเอง ลุงจะไปรับส่งโรงเรียนตลอด สองสามคนพี่น้อง ตอนจะไปก็หนีไป ตั้ง 2-3 ปี กว่าจะโทรศัพท์กลับมาหา ก็บอกอยากจะกลับมาอยู่ระนองก็กลับมาได้นะ
ยายกาญจนาเล่าต่อว่า ก่อนเกิดเหตุหลานสาวจะตายได้โทร.มาหา ตอนตี 2 โทร.มาแล้วร้องไห้ เราก็ถามลูกเคลียร์ร้องทำไม ปีใหม่แล้ว พอพูดแค่นั้นเขาก็บอกเขาผิดหวังเรื่องผู้ชาย ผู้ชายหลอกเขาไปทำไม่ดี แล้วก็ร้องไห้ หลังจากนั้นสายก็ตัดไปเลย แล้วก็ติดต่อไม่ได้เลย จนมารู้ข่าวตอนเช้าที่ลูกโทร.มาบอก
“ยายเลี้ยงเขาไม่เคยให้ลำบาก แต่เขามีปมด้อยเพียงเขาขาดพ่อขาดแม่ ถึงเราเป็นปู่ย่าตายาย มันก็ไม่เหมือนพ่อแม่เขาใช่มั้ย เหมือนเขาขาดความอบอุ่น แต่เราก็ดีทุกอย่าง เวลาไปไหนก็ไปด้วยกัน ลูกชายมาทีก็เหมารถไปเที่ยวกัน เพราะเขาเป็นคนส่งเสียหลานคนนี้ ส่วนหลานติดต่อกลับมาไม่กี่ครั้งตั้งแต่ไปอยู่กรุงเทพฯ” คุณยายกล่าว
นอกจากนี้ คุณยายยังฝากช่วยประสานเตรียมการเรื่องวัดหากหลานสาวเสียชีวิตจริง เพราะไม่มีญาติพี่น้องอยู่ที่ระนอง ส่วนใหญ่จะอยู่กรุงเทพฯ พร้อมกันนั้นยังฝากให้ติดต่อญาติให้ช่วยจองวัด เพราะไม่รู้จะไปบอกใคร
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณี ดังกล่าว ว่า ในกรณีคนที่ไลฟ์สดหรือคนที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ เข้าข่ายมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 374 ผู้ใดเห็นผู้อื่นตกอยู่ในภยันตรายแห่งชีวิตซึ่งตนอาจช่วยได้ แต่ไม่ช่วยตามความจำเป็น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
อง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ จยย.รับจ้างอ้างว่าไม่ทราบว่าหญิงคนดังกล่าวจะกระโดดสะพานนั้นเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ได้ ตามหลักวิญญูชนแล้วแค่เห็นคนขึ้นไปนั่งบนราวสะพาน ดื่มสุราจนเมา มีท่าทางเศร้าโศก ยืนหันหน้าไปทางฝั่งแม่น้ำทำท่าจะกระโดดก็ต้องห้ามปราม หยุดยั้ง แค่ลักษณะขึ้นไปบนคอสะพานก็รู้แล้วว่าเป็นอันตราย มีความเสี่ยง เพราะคนทั่วไปคงไม่ไปถ่ายรูปเล่นในลักษณะนั้น จึงฝากไปถึงประชาชนทั่วไปถ้าเห็นคนกำลังฆ่าตัวตาย หรือกำลังได้รับอันตราย แต่ไม่ช่วยก็จะมีความผิดตามมาตราดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ ถ้าหากเป็นกรณีอุบัติเหตุตามท้องถนน หากมีคนเห็นแล้วพอช่วยเหลือได้ แต่ไม่ช่วย ก็อาจจะเข้าข่ายมีความผิดตามมาตรา 374 ด้วยเช่นกัน โดยมาตรานี้มุ่งหวังให้คนได้รับความช่วยเหลือ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น