
เป็นเรื่องราวสุดช้อกเลยทีเดียวเมื่อทางด้านของผู้เชี่ยวชาญออกมาเปิดเผยถึงสถานการ์ณที่น่าตกใจ ช็อกโกแลต อยู่ในสภาวะขาดแคลนครั้งใหญ่และจะหมดลงจากโลกในอีก 30 ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน
โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นได้รับการเปิดเผยจากทางด้านสื่อชื่อดังอย่าง Daily Mail ที่ออกมายืนยันคำพูดของเหล่าบรรดาผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้หลังจากมองเห็นว่ามันกำลังมีผลกระทบอย่างมากในอนาคตอันใกล้นี้ ช็อกโกแลตอาจจะหมดไปจากโลกภายใน 30-40 ปีข้างหน้า เนื่องจากต้นโกโก้ ประสบปัญหาเจริญเติบโตได้ยากภายในสภาพภูมิอากาศที่ร้อนขึ้น โดยรายงานเผยว่า ต้นโกโก้สามารถเจริญเติบโตได้แค่ภายในพื้นที่ใกล้เส้นศูนย์สูตร และต้องมีอุณหภูมิประมาณ 20 องศาเซลเซียส รวมทั้งยังต้องมีปัจจัยจำกัดอื่น ๆ อีก เช่น มีความชื้นสูงและมีฝนมาก

ทางด้านนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า “มีโอกาสน้อยที่ปริมาณน้ำฝนจะเพิ่มขึ้นเพียงพอเพื่อชดเชยการสูญเสียความชุ่มชื้นนั้น นั่นหมายถึงพื้นที่การเพาะปลูกต้นโกโก้ จะต้องถูกย้ายขึ้นไปปลูกในพื้นที่ที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขา เพื่อที่จะรักษาพันธุ์ของมันเอาไว้ก่อนที่จะถึงปี 2593 ด้วยเหตุนี้ส่งผลให้หลายประเทศ อาทิ โกตดิวัวร์ และกานา ซึ่งเป็นประเทศที่ผลิตช็อกโกแลตมากกว่าครึ่งของโลก จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ลำบากที่ยากจะตัดสินใจได้ว่า ควรจะรักษาพันธุ์ช็อกโกแลตเอาไว้ หรือรักษาระบบนิเวศที่กำลังจะตายไป ”
“โลกกำลังเดินหน้าไปสู่ภาวะช็อกโกแลตขาดตลาด เนื่องจากผู้บริโภคในประเทศกำลังพัฒนาเริ่มมีการนิยมบริโภคของหวานมากขึ้น โดยรายงานการวิจัยชื่อ Destruction by Chocolate (การเสื่อมสลายของช็อกโกแลต) พบว่า ทั่วไปแล้วผู้บริโภคฝั่งตะวันตกกินช็อกโกแลตบาร์โดยเฉลี่ยคนละ 286 บาร์ต่อปี และปริมาณจะเพิ่มขึ้นหากเป็นชาวเบลเยียม โดยช็อกโกแลต 286 บาร์ ผู้ผลิตจะต้องปลูกต้นโกโก้ 10 ต้น เพื่อนำไปผลิตเป็นโกโก้ และเนย ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตช็อกโกแลต”
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น